- อิหร่านเตรียมโจมตีอิสราเอลโดยตรง? เพิ่มโอกาสเกิดสงคราม
- ความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะโจมตีอิสราเอลโดยตรงในสัปดาห์นี้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความเป็นไปได้ของการปะทะกันระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านก็ถูกหยิบยกขึ้นมาด้วย อิสราเอลได้เพิ่มระดับการเตรียมพร้อมทางทหาร และสหรัฐฯ ก็ได้เพิ่มการเฝ้าระวังในภูมิภาคตะวันออกกลางเช่นกัน
อิสราเอลเตรียมตอบโต้การโจมตีจากอิหร่านหลังจากประกาศว่าจะตอบโต้การโจมตีจากอิหร่านแล้ว ปัจจุบันอิสราเอลกำลังพิจารณาถึงระดับความรุนแรงในการตอบโต้อย่างรอบคอบ
โดยคำนึงถึงผลกระทบจากการสูญเสียชีวิตของพลเรือนและการขยายขอบเขตความขัดแย้งไปยังประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ทำให้การโจมตีทางไซเบอร์กลายเป็นทางเลือกแทนการยิงขีปนาวุธในขณะนี้
■ อิสราเอลตอบโต้อิหร่าน
รายงานระบุว่าอิสราเอลกำลังพิจารณาการโจมตีทางไซเบอร์ซึ่งเทียบเท่ากับการดำเนินการทางทหาร เช่น การยิงขีปนาวุธ
ทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขยายขอบเขตความขัดแย้ง จึงมีการวิเคราะห์ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จะเป็นทางเลือกแทนในสถานการณ์นี้
ดูเหมือนว่าทางการอิสราเอลกำลังหารือถึงวิธีการตอบโต้ โดยระบุว่าจะต้องเป็นวิธีการที่สร้างความเจ็บปวดสูงสุด แต่ยังไม่มีการพูดถึงการโจมตีโดยตรง จึงทำให้คาดการณ์ว่าการโจมตีทางไซเบอร์อาจเป็นไปได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่าสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตร รวมถึงประเทศในภูมิภาค ไม่ได้คัดค้านแนวทางการตอบโต้ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ในปี 2021 และ 2023 กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิสราเอลได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานเหล็ก และระบบรถไฟของอิหร่านด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ดังกล่าวได้กำหนดเป้าหมายสถานที่สำคัญหลายแห่งเพื่อสร้างความสับสนวุ่นวายและขัดขวางการทำงานของสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้
ความขัดแย้งทางไซเบอร์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านมีมายาวนานเกือบ 20 ปีแล้ว
มีบันทึกว่าสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลได้ใช้ 'สตัคซ์เน็ต' (Stuxnet) อาวุธไซเบอร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อโจมตีอิหร่าน ในปี 2010 และ 2021 ตามลำดับ เพื่อทำให้การทำงานของสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญๆ ของอิหร่านหยุดชะงัก
ในส่วนของอิสราเอล นอกเหนือจากหน่วยไซเบอร์แห่งชาติแล้ว ยังมีหน่วยรวบรวมข้อมูลภายในกองทัพอิสราเอลที่รับผิดชอบในการพัฒนาศักยภาพการโจมตีทางไซเบอร์ หน่วยดังกล่าวมีหน้าที่หลักในการดำเนินการโจมตีทางไซเบอร์ของอิสราเอล และมีรายงานว่าได้ร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาในการดำเนินการโจมตี 'สตัคซ์เน็ต' (Stuxnet)
อิหร่านก็ได้เพิ่มศักยภาพทางไซเบอร์เช่นกัน โดยเลียนแบบการโจมตีทางไซเบอร์ของอิสราเอล
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของอิหร่านได้กล่าวว่า 'อิหร่านได้ถอดรหัส 'สตัคซ์เน็ต' (Stuxnet) ของอิสราเอลและพัฒนาโปรแกรมที่เป็นอันตรายขึ้นมาเอง'
มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านได้พยายามโจมตีฝ่ายตรงข้าม และถูกกล่าวหาว่าโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกของอิสราเอล
อิหร่านได้โจมตีอิสราเอลในสนามรบไซเบอร์ในช่วงสงครามในกาซาครั้งนี้ด้วย มีรายงานว่าความรุนแรงของการโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของอิหร่านกล่าวว่า 'อิสราเอลเป็นมหาอำนาจด้านการโจมตีทางไซเบอร์ และอิหร่านก็เป็นประเทศที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้านไซเบอร์เช่นกัน' โดยยอมรับว่าศักยภาพของอิหร่านยังไม่เท่ากับอิสราเอล แต่ก็ได้พัฒนาศักยภาพด้านไซเบอร์ขึ้นมาอย่างมาก
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตอบโต้ของอิสราเอลต่ออิหร่านเท่านั้น
เนื้อหาในบทความนี้อาจมีลิงก์ไปยังผู้สนับสนุนหรือพันธมิตร และอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการเป็นพันธมิตรในระดับหนึ่ง
ความคิดเห็น0